ประวัติ หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค
หลวงพ่อเล็ก เกสโร เกิดปีระกา พ.ศ. ๒๔๒๘ ตำบลสาลี หมู่ที่ ๒ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี บิดาชื่อ อ่อน มารดาชื่อ บุญมี มีพี่น้องร่วมท้องด้วยกัน ๙ คน คือ
๑. นางคล้าม
๒. นายเทศ
๓. นายไทย
๔. นายเล่
๕. หลวงพ่อเล็ก
๖. นางสมบุญ (โยมแม่ของหลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร – ผู้พิมพ์เพิ่มเติมไปเอง)
๗. นางพลอย
๘ .นายช่วง
๙ .นางศาลา
อุปสมบท
อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดปากคลองบางยี่หน ใครเป็นอุปัชฌาย์นั้นจำไม่ได้ถนัด เคยได้ยินพูดว่าชื่อ “ทอง” หรืออย่างไรไม่ชัดเจน
เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาอยู่ที่ วัดสาลี อันเป็นวัดบ้านเกิดเมืองนอน ๑ พรรษา แล้วย้ายมาอยู่ วัดช่องลม ตำบลไผ่กองดิน ๑ พรรษา
ในระยะ ๒ พรรษานี้มีความขยันหมั่นเพียรในการท่องหนังสือสวดมนต์เป็นอย่างดี พรรษาต้นได้ท่องจบเจ็ดตำนาน พรรษาที่ ๒ ท่องจบ “มหาสมัย” และ “ปาฏิโมกข์”
ในสมัยนั้นหาสถานศึกษายาก เมื่อท่องหนังสือสวดมนต์จบแล้วก็ไม่มีกิจอื่นอยู่กันเฉย ๆ เมื่อถึงเวลากลางคืนก็ซ้อมสวดมนต์แก้ว่างกันไป แบบทหารเมื่อฝึกวิชารบเป็นแล้ว ก็ซักซ้อมไว้เพื่อความชำนาญ
ต่อมาได้คิดว่า ถ้าอยู่เป็นพระแค่สวดมนต์อย่างนี้ คงไม่มีอะไรจะดีขึ้น ไม่สมกับบิดามารดาได้อุปถัมภ์เลี้ยงดูมา ได้ลงทุนลงแรงและสิ้นเปลืองทั้งทรัพย์และเวลา ควรจะหาสถานศึกษาเพื่อหาความรู้ใส่ตัว แล้วปฏิบัติให้ครบถ้วนตามพระธรรมวินัย
เพราะพระนั้นถ้ารู้เพียงแค่สวดมนต์แล้ว อาจจะขาดจากความเป็นพระได้ไม่ยาก เพราะการที่ไม่ได้ศึกษาย่อมไม่รู้จักศีล
คำว่าพระมีศีล ๒๒๗ นั้น ถ้าไม่ได้ศึกษาแล้วจะรู้ไม่ได้ เมื่อไม่รู้ว่าศีลคืออะไรก็ปฏิบัติไม่ถูก เมื่อปฏิบัติไม่ถูกศีลแล้วก็ไม่เป็นพระ ในปัจจุบันนี้พระประเภทหัวหลักหัวตอก็มีมาก ประเภทลิงหลอกจ้าวก็มีไม่น้อย
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะบวชไม่ได้เรียน พอบวชเข้ามาแล้วก็คิดว่าเมื่อไรจะออกพรรษา จะได้สึกออกจากพระ พระอย่างนี้เรียกว่า “พระปลวก” เป็นพวกเจาะไชพระศาสนาให้ทรุดโทรม ขอท่านผู้ปกครอง หรือบิดามารดาของกุลบุตรผู้จะบวช โปรดสังวรไว้ด้วย
ถ้าลูกของท่านบวชแล้วเป็นอย่างนั้น ท่านเองจะกลายเป็นผู้ลงทุนให้ลูกทำลายพระศาสนา แล้วผลที่ได้ก็คือลูกตกนรก พ่อแม่เสียเงินเสียทองเปล่า ๆ ดีไม่ดีก็พลอยตกนรกกับลูกไปด้วย
เพราะเมื่อลูกทำผิดสมภารก็ต้องว่า เมื่อถูกสมภารว่าก็จะมาฟ้องพ่อแม่ ถ้าพ่อแม่ญาติพี่น้องพลอยโกรธเคืองสมภารผู้ทำถูกทำดีเพราะลูกไปฟ้องแล้ว
พวกของท่านทั้งพวกก็จะกลายเป็นเหยื่อนรกทั้งหมด จงอย่าเกณฑ์ให้ลูกบวชตามประเพณี รอให้เขามีศรัทธาเสียก่อน แล้วคอยช่วยสมภารปราบด้วย จึงจะได้บุญ
พบหลวงพ่อปาน
เมื่อออกพรรษาที่ ๒ นั่นเอง ก็ได้พบหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เลื่อมใสในปฏิปทาของท่าน ได้ติดตามมาอยู่วัดบางนมโค เรียนปริยัติธรรม
สมัยนั้นหลวงพ่อปาน กับ อาจารย์เกี้ยว ร่วมกันสอนบาลี ตามแบบสูตรและสนธิอยู่ท่านเรียนบาลีได้ดี เคยแปลหนังสือร่วมกับข้าพเจ้า ท่านแปลได้ไม่แพ้ข้าพเจ้า และดูเหมือนจะดีกว่าเสียด้วยซ้ำ
ในด้านการค้นคว้าในความรู้ทางพระศาสนามีความขยันค้นคว้ามาก ทุกวันเมื่อถึงเวลาบ่าง ๒ โมง เป็นต้องเข้าห้องดูหนังสือตลอดไปจนเย็น ต่อเมื่อถึง ๕ หรือ ๖ โมงเย็นแล้วจึงจะเลิก
มีความชำนาญในวิสุทธิมรรคและอภิธรรมมาก จนกระทั่งเมื่อใกล้จะมรณภาพ เคยถามอภิธรรมแก่ท่าน ท่านว่าแบบอภิธรรมให้ฟัง ท่านจำได้ขึ้นใจคล้ายกับข้าพเจ้าจำยะถาสัพพี
จริยาวัตร
๑. ได้ปฏิญาณตนตั้งแต่วันแรกของวันบวช ว่าจะไม่ยอมด่าใคร ท่านรักษาสัจจะสำนึกนี้ไว้ได้ดีจนถึงมรณภาพ
๒. เคร่งครัดในพระวินัยมาก ไม่ยอมล่วงแม้แต่อาบัติเล็กน้อย
๓. มีพรหมวิหาร ๔ เป็นปุเรจาริก ห่วงหมาห่วงแมว ท่านเคยพูดว่าก็มันไม่มีไร่มีนากับเขา ถ้าเราไม่ให้ มันจะกินอะไร เรากับมันก็มีชีวิตเหมือนกัน เมื่อให้อาหารสัตว์ต้องหากับผสมจนพอใจ
๔. มีขันติธรรมเป็นอย่างเลิศ เคยถูกพวกเดียรถีย์ประนามให้อย่างหนักได้เคยออกปากชักชวนท่านให้ไปอยู่เสียที่อื่น ท่านพูดว่า เราดีเสียแล้ว ในโลกนี้ไม่มีใครเลว ท่านทนอยู่ได้ แต่ข้าพเจ้าเองกลับทนไม่ไหว ท่านดีกว่าข้าพเจ้าอย่างเทียบกันไม่ได้เลย
๕. มีสมณะธรรมสูงมาก เมื่ออยู่กันตามลำพัง เคยทดสอบสมณะธรรมร่วมกัน ปรากฏว่าญาณในสมณะหลายอย่าง เช่น เจโตปริยญาณ จุตูปปาตญาณ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ อตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ ยะถากรรมมุตาญาณ ท่านคล่องแคล่วมาก
ส่วนวิปัสสนาญาณนั้น ได้ถึงขั้นมีอารมณ์ไม่หวั่นไหวใน “โลกธรรม” พูดตามอาการที่ปรากฏ แต่ส่วนแท้นั้นเป็นปัจจัตตัง ยากที่จะพูดให้ฟังตรงๆ ได้ ขอให้เปรียบเทียบเอาเอง ฌานนั้นได้จบจตุถฌาน ส่วนอรูปฌานเจริญด้วยหรือไม่นั้นไม่เคยถาม
ท่านเป็นพระที่บัณฑิตสรรเสริญ แต่ไม่ถูกใจของคนพาล เพราะท่านไม่ยอมรับข้อเสนอเลว ๆ ของเหล่าพาล ฉะนั้นพวกเหล่าพาลจึงไม่รักและคอยนินทาว่าร้ายอยู่เสมอ
ขณะนี้ท่านมรณภาพแล้ว ท่านพบความสุขอันแท้จริง อันเป็นผลเนื่องจากการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของท่านแล้ว เหลือแต่พวกเราเดินดิน ที่มีความรักความอาลัยในท่าน รักด้วยความจริงใจบ้าง ทำเป็นรักต่อหน้าทาระกำนันบ้าง จะไปทางไหนกัน สวรรค์หรือนรกก็รู้ได้ยาก”