ประวัติ หลวงพ่อตัด วัดชายนา

ประวัติ หลวงพ่อตัด วัดชายนา

พระพุทธวิริยากร (ตัด ปวโร) เป็นพระเกจิที่มีวิชาอาคมในด้านปลุกเสกเครื่องรางของขลัง[1]ไม่ว่าตะกรุดหรือปลัด  ท่านเป็นพระที่ชอบเรียนวิชาอาคมมาก สนใจตั้งแต่ยังหนุ่ม ท่านบอกว่า “สมัยก่อน ปี 2496 เอาหมด เอาทุกอย่างที่ไหนเขาว่าดีไปหมด ในกระจิวนี้ไปขอเรียนมาหมด…” พูดง่ายๆว่าตำราเก่าๆในจังหวัดเพชรบุรีนี้ท่านเรียนมาหมดครับ แต่ท่านไม่ค่อยคุยโอ้อวด

ท่านเรียนวิชาการทำ “ตะกรุด” จาก ล.พ.ทอง อยู่ที่วัดเขากระจิวและ เรียนตำราของ ล.พ.กริช ที่ตกทอดมาซึ่งเป็นพระยุคเก่าเป็นอาจารย์สาย ล.พ.กุน วัดพระนอน เรียนทำ “ปลัด” จาก ล.พ. ชุ่ม วัดกุฏิบางเค็ม ซึ่งมีเคล็ดลับว่าให้ใช้ “ไม้ผูกคอตาย ทำถึงจะดี” และ ท่านยังได้เดินทางไปต่อวิชากับ ล.พ.ทองศุข วัดโตนดหลวง รวมทั้งอีกหลายอาจารย์

ท่านเป็นพระที่ใฝ่หาความรู้วิชาอาคมต่างๆ อย่างจริงจัง วัตถุมงคลของท่านนั้นทำเพื่อแจกและให้แก่ผู้ร่วมทำบุญบูรณะวัดอย่างแท้จริง หลวงพ่อไม่อวดตน ไม่ให้สัมภาษณ์หรือนำเรื่องของท่านและวัตถุมงคลไปลงหนังสือ หรือรายการโทรทัศน์ใด ๆ ทั้งสิ้น วัตถุมงคลของท่านจึงมีชื่อเสียงจากประสบการณ์ปากต่อปาก ไม่มีสื่อภายนอกมาเป็นตัวช่วย ปฏิปทาที่ประทับใจผมมากก็คือ หลวงพ่อท่านแจกฟรี ในช่วงที่ตะกรุดของท่านยังไม่ดังมากมายขนาดนี้ ใครไปวัดชายนากราบท่าน ท่านแจกทั้งนั้น ถ้าท่านไม่อยู่ก็จะมีลูกศิษย์ท่านคอยนั่งแจกทั้งวัน ในส่วนวัตถุมงคลที่อยู่ในตู้ให้ทำบุญนั้น หลวงพ่อจะสร้างวัตถุมงคล เพื่อนำปัจจัยที่ได้มาซ่อมแซมบูรณะโบสถ์ ซึ่งมีพระกริ่ง พระผง รูปเหมือนและเหรียญ มีประชาชนไปบูชาทำบุญกับท่านไม่ได้ขาด แต่พอปัจจัยที่ได้ในการบูรณะโบสถ์พอเพียงแล้ว หลวงพ่อท่านจะสั่งปิดตู้งดบูชา ผมเคยไปกราบท่านตั้งใจว่าจะไปบูชาวัตถุมงคลของท่านที่ออกให้บูชาซ่อมโบสถ์ ปรากฏว่าไม่มีตู้วัตถุมงคล ถามลูกศิษย์ที่วัด บอกว่า หลวงพ่อสั่งให้เลิก ได้เงินพอซ่อมโบสถ์แล้ว ไม่ต้องหาเงินแล้ว ถ้าอยากได้เข้าไปกราบแล้วบอกท่าน ท่านจะแจกให้เอง ผมจึงเข้าไปกราบหลวงพ่อแล้วถามว่า ทำไมไม่มีวัตถุมงคลให้บูชา หลวงพ่อท่านบอกว่า พอแล้วซ่อมโบสถ์ได้แล้ว อยากได้อะไรก็มาเอาไป แล้วท่านก็หยิบเหรียญมาแจก พร้อมพระขุนแผนเนื้อดินเผาอีก 2 กำมือ มานับตอนจะกลับได้มาตั้ง 14 องค์เลยทีเดียว หลวงพ่อท่านเมตตามากครับ ไม่ได้ทำของเผื่อพุทธพาณิชย์ แต่ทุกวันนี้ ถ้าใครไปกราบท่านคงยากหน่อยเพราะคนไปกันเยอะ ท่านไม่ชอบคนวุ่นวายมากมาย แล้วก็คงแจกไม่ไหวแล้วละครับ อีกทั้งทางวัดกำลังสร้างหอฉันหลังใหม่ด้วย จึงมีวัตถุมงคลให้เปลี่ยนอีกครั้ง เพื่อนำเงินมาสร้างหอฉัน ส่วนตะกรุดก็แจกไม่ไหวแล้วครับ ท่านให้ช่วยค่าตะกั่วดอกละ 100 บาท ช่วงไหนตะกั่วขาดตลาดหลวงพ่อจะให้เปลี่ยนได้แค่ คนละ 1 ดอกเท่านั้น แต่ถ้ามีตะกั่วก็แล้วแต่จะเปลี่ยนกันครับ มากน้อยได้ทั้งนั้น แต่ภาพที่เคยเห็นหลวงพ่อตัด นั่งแจกตะกรุดคงหาดูได้ยากแล้วละครับ เพราะคนไปกันมากมาย ทุกวัน

ภายหลังในปี พ.ศ. 2548 – พ.ศ. 2550 หลวงพ่อท่านได้รับบริจาคเครื่องปั๊มจึงได้นำมาใช้สร้างตะกรุดแล้วให้ประชาชนเปลี่ยนโดยขอให้ช่วยค่าตะกั่ววัดดอกละ 100 บาท โดยตะกรุดปั๊มนั้นจะเป็นตะกรุดมหาอุต ตะกรุดยันตรี และแผ่นเพชรพญาธร ส่วนตู้บูชาวัตถุมงคลนั้นกลับมาเปิดแบบถาวรแล้วโดยรายได้จะนำเงินเข้าบำรุงวัดและบริจาคให้กับผู้ที่ขอความช่วยเหลือเป็นราย ๆ แล้วแต่โอกาส

และในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551 หลวงพ่อตัดได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระพุทธวิริยากร

พระพุทธวิริยากรมรณภาพเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 สิริอายุ 77 ปี 57 พรรษา